
รองศาสตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ พร้อมด้วย อาจารย์วิเชียร แก้วสมบัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ได้ประกาศปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจไทยปี 2568 จากเดิม 3.0% เหลือเพียง 1.7% หลังจากเผชิญปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน
# ปัจจัยสำคัญที่กระทบเศรษฐกิจไทย
ปัจจัยต่างประเทศ
– สงครามการค้าสหรัฐฯ – การเรียกเก็บภาษีตอบโต้ที่คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 10-30% โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งเหลือเวลาเพียง 10 วันก่อนเส้นตาย 8 ก.ค.
– ความขัดแย้งอิสราเอล-อิหร่าน – ส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบและเสถียรภาพของภูมิภาค
– ความตึงเครียดไทย-กัมพูชา – ส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดนและการส่งออก
ปัจจัยภายในประเทศ
– เสถียรภาพรัฐบาล – ความไม่แน่นอนจากกรณีคลิปเสียงนายกรัฐมนตรี และคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ
– ประสิทธิภาพการใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ – ความสามารถในการเบิกจ่ายงบประมาณ 1.57 แสนล้านบาท
# ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2568
ตัวชี้วัดหลัก
– GDP เติบโต 1.7%
– การส่งออกขยายตัว 2.5%
– อัตราเงินเฟ้อทั่วไป 0.5%
– นักท่องเที่ยวต่างชาติ 36 ล้านคน สร้างรายได้ 1.69 ล้านล้านบาท
# สถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น
กรณีฐาน (โอกาส 55%): GDP เติบโต 1.7%
– สหรัฐฯ เก็บภาษี 15-20%
– ความขัดแย้งคลี่คลายระดับปานกลาง
– เบิกจ่ายงบ 1.57 แสนล้านบาทได้ 50%
กรณีแย่ที่สุด (โอกาส 10%): GDP เติบโตเพียง 0.9%
– การเมืองไร้เสถียรภาพ มีการยุบสภา
– สหรัฐฯ เก็บภาษี 25-30%
– ชายแดนกัมพูชาปิดด่าน 100% ตลอดปี
– เบิกจ่ายงบ 1.57 แสนล้านบาทได้ 25%
กรณีดีที่สุด (โอกาส 5%): GDP อาจเติบโตได้ 2.3%
– รัฐบาลมีเสถียรภาพตลอดปี สามารถเบิกจ่ายงบ 1.57 แสนล้านบาทได้ 75%
– สหรัฐฯ เก็บภาษีเพียง 10%
– ความขัดแย้งต่างๆ คลี่คลายได้เร็ว
